2014-03-12 | 3651 View

ทรูไอดีซีเล็งจับมือพาร์ตเนอร์สร้างดาต้าเซ็นเตอร์ 1 หมื่นตารางเมตร

นายชัย สุทธาสา รองผู้อำนวยการสายงานเทคโนโลยี ทรูไอดีซี (คนซ้าย) และ นายเจนวิทย์ คราประยูร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด (คนขวา)

       ทรูไอดีซี ชี้ตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในเมืองไทยกำลังขาขึ้นลูกค้าแห่สนใจเพียบ ส่งผลปีที่ผ่านมาโตกว่า 20% ส่วนดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่กำลังสร้างมียอดลูกค้ากว่า 50% แล้ว เตรียมจับมือพาร์ตเนอร์ต่างชาติขอบีโอไอ สร้างดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่กว่า 1 หมื่นตารางเมตรในภาคตะวันออกด้านรายได้ปีนี้คาดเติบโตเพิ่มขึ้น 15% หรือมีรายได้ 450 ล้านบาท

       นายเจนวิทย์ คราประยูร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันในส่วนศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่ให้บริการลูกค้าเริ่มเต็มแล้ว จำเป็นต้องมีการสร้างเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากธุรกิจต่างๆ มีการใช้งานกันมากขึ้น ซึ่งในส่วนบริการของทรูก็ได้รับความสนใจมากเช่นเดียวกัน โดยปัจจุบันกำลังดำเนินการสร้างศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่อยู่ที่เมืองทองธานี ซึ่งคาดว่าจะเสร็จประมาณไตรมาส 2 ในปีนี้ บนพื้นที่ 500 ตารางเมตร มีความจุที่ 190 แร็ค ด้วยเงินลงทุนกว่า 200 ล้าน โดยปัจจุบันมียอดลูกค้าจองใช้บริการเกินกว่า 50% แล้ว

       นอกจากนี้ทรูยังได้เตรียมที่จะจับมือกับพาร์ตเนอร์ต่างชาติในการสร้างศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ ที่ได้มาตรฐานเดียวกับศูนย์ชั้นนำของโลกที่ใช้มาตรฐานในระดับ Tier 4 คาดว่าใช้เวลาประมาณ 18 เดือนจึงแล้วเสร็จ ซึ่งหากสร้างเสร็จคาดว่าจะใหญ่กว่าศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีอยู่ในประเทศไทย ทั้ง 5 อันดับแรกของไทยรวมกัน โดยศูนย์ดังกล่าวจะตั้งอยู่ในภาคตะวันออก

       'ขณะนี้ได้มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอในการทำศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่แล้ว ซึ่งตามกฏระเบียบของบีโอไอนั้น กำหนดให้ผู้ประกอบการต้องมีการสร้างศูนย์ในพื้นที่ขั้นต่ำประมาณ 5,000 ตารางเมตร ซึ่งทรูไอดีซีคาดว่าจะสร้างใหญ่กว่านั้น และอาจจะถึง 10,000 ตารางเมตรหากมีความพร้อม ซึ่งขณะนี้เตรียมเซ็นสัญญากับพันธมิตรซึ่งเป็นผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ชั้นนำของโลก คาดว่าน่าจะเซ็นสัญญาได้ในอีก 2 เดือนนี้'

       นายเจนวิทย์ กล่าวว่า การสร้างศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 18 เดือนนับจากวันที่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งยังคงต้องรอให้มีรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาแต่งตั้งบอร์ดใหม่ของบีโอไอเสียก่อน แต่คาดว่าไม่น่าจะเกินกลางปีนี้ ส่วนทางด้านพันธมิตรนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่พวกเขาเลือกประเทศไทยในการลงทุนมากกว่าที่จะไปลงทุนในประเทศอื่นในละแวกใกล้เคียง

       สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนั้น ทรูไอดีซีอยู่ระหว่างการเชิญชวนลูกค้ารายใหม่ๆ อย่างเช่น ธนาคาร ซึ่งถือเป็นลูกค้าหลัก เพราะแม้ว่ากลุ่มนี้จะมีเงินลงทุนมากและสามารถดำเนินการสร้างเองได้ แต่ทรูไอดีซีคาดว่าด้วยบริการของทรูไอดีซีและพันธมิตรน่าจะช่วยให้ลูกค้ากลุ่มนี้สามารถได้รับบริการที่ดีกว่าที่จะสร้างเอง รวมไปถึงเรื่องของการการันตี 100% ตลอดเวลา จึงน่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้เป็นอย่างดี

       สำหรับผลการดำเนินงานในในปีที่ผ่านมา ทรู ไอดีซี นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยในปี 2556 มีลูกค้าองค์กรใช้บริการจำนวนกว่า 400 องค์กร สร้างรายได้ประมาณ 390 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตสูงถึง 20% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของ 3G ส่วนปีนี้คาดว่าจะโต 15% หรือคิดเป็นรายได้ทั้งหมด 450 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตน้อยกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากกำลังอยู่ในระหว่างขยายการให้บริการ

       นายชัย สุทธาสา รองผู้อำนวยการสายงานเทคโนโลยี ทรูไอดีซี กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของลูกค้านั้นส่วนหนึ่งเกิดจากการเตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด อาทิ ภัยธรรมชาติ และภัยคุกคามอื่นๆ ทำให้องค์กรธุรกิจเริ่มให้ความสำคัญกับการวางแผนรองรับความเสี่ยงจากภัยต่างๆ เหล่านี้มากขึ้นทรูไอดีซีจึงได้นำเสนอบริการและโซลูชันที่ตอบสนองตรงความต้องการของลูกค้า และการพัฒนาคุณภาพบริการที่ได้มาตรฐานสากล ทำให้ลูกค้ามั่นใจใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

       นอกจากนี้ทรูไอดีซียังได้รับมาตรฐาน ISO 22301 ด้านการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ เป็นรายแรกและรายเดียวในไทย และในปีนี้ ทรู ไอดีซี มีบริการเสริมใหม่ๆ ได้แก่ บริการ Disaster Recovery (DR) บริการVDO Conference ระบบ HD และบริการคลาวด์รูปแบบใหม่ที่มาพร้อมระบบอัตโนมัติสมบูรณ์แบบเทียบเท่าบริการชั้นนำในต่างประเทศ

สนใจทำเว็บไซต์

ปรึกษา ฟรี!